Category Archives: ออกแบบขั้นสูง

เทคนิคออกแบบเว็บไซต์ให้สวยโดนใจ

เทคนิคออกแบบเว็บไซต์ให้สวยโดนใจ

การทำเว็บไซต์ออนไลน์เป็นที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือบุคคลทั่วไปก็สามารถมีเว็บไซต์เป็นของตนเองได้ ซึ่งสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของการทำเว็บไซต์ออนไลน์ก็คือการออกแบบเว็บไซต์นั่นเอง ในบทความนี้จึงได้รวบรวมเทคนิคการออกแบบเว็บไซต์ให้สวยโดนใจ ที่จะทำให้ผู้ที่เข้ามาใช้งานร้องว้าว!

  1. เรียบง่าย แต่สื่อสาร

เว็บไซต์ที่เรียบง่าย การนำเสนอไม่รกจนเกินไป และสามารถสื่อสารกับผู้ที่เข้ามาใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยเลือกนำเสนอเพียงแค่สิ่งที่ต้องการนำเสนอ เพื่อให้เนื้อหามีความกระชับ เข้าใจง่าย ตรงประเด็น ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  1. เลือกใช้รูปภาพน่าสนใจ ดึงดูด

รูปภาพเป็นสิ่งที่สามารถสื่อสิ่งต่างๆ ได้มากมาย คุณสามารถใช้ได้ทั้งรูปภาพของตนเองรวมไปถึงรูปภาพจากเว็บฟรีได้ นอกจากนี้คุณยังควรเลือกใช้รูปภาพที่เหมาะสมและสอดคล้องกับเนื้อหาบนเว็บไซต์เพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังสามารถช่วยเพิ่มอรรถรสให้แก่ผู้ใช้งานได้อีกด้วย

  1. เนื้อหาในเว็บอ่านง่าย

ถึงแม้เนื้อหาบนเว็บของคุณจะดีสักเพียงใด แต่หากผู้อ่านไม่เข้าใจในเนื้อหาก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร ดังนั้นการจัดเนื้อหาในเว็บไซต์ เช่น การเว้นวรรค การสะกดคำที่ถูกต้อง ภาษาเข้าใจง่าย ตรงประเด็น ขนาดและฟอนต์อ่านง่าย รวมถึงมีความสม่ำเสมอของโทนสีและฟอนต์ จึงเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

  1. มีข้อมูลชัดเจน

หากคุณทำเว็บขายสินค้าและบริการ ควรมีข้อมูลของสินค้ารวมถึงข้อมูลของผู้ขายอย่างชัดเจนครบถ้วน เช่น สรรพคุณของสินค้า ช่องทางการติดต่อผู้ขายกรณีมีข้อสงสัย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ และทำให้ผู้ใช้งานได้รับบริการที่ตรงต่อความต้องการมากที่สุด

  1. อัตราส่วนพอดี

ส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้งานเว็บไซต์มักใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากสะดวกต่อการพกพา และยังใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ดังนั้นคุณจึงควรออกแบบเว็บไซต์ให้มีอัตราส่วนที่พอดีเมื่อเข้าใช้งานผ่านทางโทรศัพท์มือถือ

  1. โทนสีเหมาะสม

โทนสีจะช่วยสร้างอารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป เช่น สีแดงให้ความรู้สึกกระตือรือร้น สีส้มให้ความรู้สึกอบอุ่น สีเขียวให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เป็นต้น คุณจึงควรเลือกใช้โทนสีให้เหมาะสม หรืออาจใช้คู่สีตรงข้ามเพื่อให้เกิดความสมดุลมากยิ่งขึ้น

หลายคนเชื่อว่าเว็บไซต์ที่ดีคือเว็บที่ถูกใจและตอบโจทย์การใช้งาน ทำให้การออกแบบเว็บไซต์มักเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามไป แต่รู้หรือไม่ว่าหน้าเว็บไซต์ที่มีความสวยงามก็เป็นส่วนช่วยดึงดูดให้ผู้เยี่ยมชมอยากท่องบนเว็บไซต์ของคุณ และอาจช่วยเพิ่มโอกาส เช่น เพิ่มยอดการขายออนไลน์ให้กับบริษัท เพิ่มโอกาสให้มีคนรู้จักบริษัทของคุณมากยิ่งขึ้น ได้อีกด้วย

พื้นฐานการออกแบบเว็บไซต์ ให้ใช้งานง่าย

การออกแบบเว็บไซต์

เว็บไซต์นั้นหากมีแต่หน้าตาเว็บที่ดูสวยแต่กลับใช้งานยากก็คงจะไม่ดีสักเท่าไหร่ สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องให้ความสำคัญเลยก็คือ การใช้งานเว็บไซต์นั้นจะต้องใช้งานได้ง่าย ไม่ใช่ว่าผู้ใช้งานเข้ามาในหน้าเว็บแล้ว อยากจะกดไปดูข้อมูลอย่างอื่นที่มีความใกล้เคียงก็ไม่รู้จะไปกดดูตรงไหน ดังนั้นบทความนี้จึงได้รวบรวมเทคนิคพื้นฐานที่คุณจะต้องทำหากต้องการให้เว็บไซต์ของคุณใช้งานได้ง่ายมากขึ้น

การออกแบบเว็บให้ใช้งานง่าย มีองค์ประกอบดังนี้

มีแถบ Navigation Bar
แถบเมนูต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณด้านบนของเว็บไซต์นั่นแหละคือ Navigation Bar มีประโยชน์สำหรับใช้เป็นที่แบ่งหมวดหมู่ต่าง ๆ ของบทความ และทำเป็นหน้าสำหรับติดต่อเจ้าของเว็บไซต์ การที่มีข้อมูลในส่วนนี้ทำให้ผู้เข้ามาใช้งานเข้าใจเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นว่าเป็นเว็บเกี่ยวกับอะไร หากคุณไม่มีตรงส่วนนี้ปล่อยไว้โล่งๆแล้วนำบทความไปกองไว้ตรงไหนก็ไม่รู้ ไม่ได้ทำให้เป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจน ผู้ใช้งานก็จะค้นหาบทความที่เขาสนใจได้ยาก

มีลิงก์ภายใน ( Internal Link )
ลิงก์ภายในคือข้อความต่างๆที่แทรกในบทความ แล้วเราทำให้ข้อความนั้นสามารถคลิกเพื่อไปสู่บทความอื่น ๆ ได้ ประโยชน์ของลิงก์ภายในนั้นมีดังนี้
เชื่อมโยงบทความที่คล้ายกันภายในเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถคลิกไปดูบทความนั้นๆได้
เป็นประโยชน์ต่อ SEO ทำให้เสิร์ชเอนจินต่างๆ เช่น Google, Bing, Yahoo ฯลฯ เข้าใจเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น ทำให้อันดับภายในเว็บไซต์ของคุณปรับปรุงไปในทางที่ดี

ปรับปรุงหน้าโฮมเพจ
โฮมเพจ ( Homepage ) ก็คือหน้าแรกของเว็บไซต์ บทความที่สำคัญต่างๆที่คุณต้องการให้ผู้ใช้งานเห็นเยอะๆ ควรที่จะอยู่หน้าโฮมเพจ โดยให้คุณออกแบบรูปให้ดูโดดเด่น พร้อมมีข้อความอธิบายรายละเอียดของรูป จากนั้นทำลิ้งภายในเชื่อมโยงจากหน้าโฮมเพจเข้าไปหาบทความนั้นๆ ก็จะทำให้ผู้ใช้งานเห็นบทความของคุณได้ง่ายในกรณีที่เขาคลิกมาดูที่หน้าโฮมเพจนั่นเอง

มีบทความที่อ่านได้ง่าย
บนความต่าง ๆ ที่คุณโพสต์ลงไปในเว็บไซต์นั้นจะต้องอ่านง่าย มีการแบ่งหัวข้ออย่างชัดเจน หากคุณเขียนบทความติดกันยาวเหยียดโดยไม่มีการแบ่งหัวข้อ ผู้ใช้งานก็จะอ่านยาก และมีโอกาสสูงที่จะปิดหน้าเว็บของคุณหนี ดังนั้นบทความควรจะมีหัวข้อหลัก หัวข้อย่อยที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้งานอ่านได้ง่ายนั่นเอง

เว็บไซต์ต้องโหลดเร็ว
เว็บของคุณนั้นหากผู้ใช้งานเปิดหน้าเว็บเข้ามาแล้วจะต้องมีการโหลดหน้าเว็บอย่างรวดเร็ว ถ้าเกิน 15 วินาที ก็ถือว่าช้าแล้ว ในยุคปัจจุบันมีเว็บไซต์เยอะแยะมากมายที่พร้อมจะเสิร์ฟข้อมูลให้แก่เขา ดังนั้นหากเว็บของคุณโหลดช้าผู้ใช้งานก็จะปิดหน้าเว็บหนี แล้วไปคลิกที่เว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อหาข้อมูลแทน

เว็บไซต์ที่ดีนั้นจะต้องใช้งานได้ง่ายและมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน หากทำได้แบบนี้เว็บคุณก็มีโอกาสที่จะมีคนรู้จักมากคุณ และสามารถนำไปต่อยอดเพื่อสร้างรายได้ในรูปแบบต่าง ๆ ในอนาคต

ชี้เป้า 4 โปรแกรม ออกแบบเว็บ ฉบับมือใหม่ ใช้งานง่าย

ชี้เป้า 4 โปรแกรม ออกแบบเว็บ ฉบับมือใหม่ ใช้งานง่าย

ยุคสมัยนี้การจะสร้างเว็บไซต์เอาไว้ใช้ไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์ใด ๆ ก็ตามแต่ ต่างล้วนไม่ใช่เรื่องยากที่ตัวเราเองคนเดียวจะไม่สามารถทำได้ เพราะปัจจุบันนี้มีบริษัทหลากหลายเจ้าที่ได้มีการพัฒนาโปรแกรม ออกแบบเว็บ เพื่อไม่ว่าใครที่ต้องการอยากมีเว็บไซต์เป็นของตนเองสามารถที่จะทำได้เลยแบบง่ายๆ และยังสามารถเลือกได้ว่าจะทำในรูปแบบเสียตังค์หรือเน้นสายฟรีกันอีกด้วย ซึ่งบทความในวันนี้เราจะมาชี้เป้ากันว่า 4 โปรแกรมเหล่านั้นที่เหมาะกับคนมือใหม่จะมีเจ้าไหนน่าสนใจกันบ้าง

4 โปรแกรมสำหรับมือใหม่หัดทำเว็บ

1. Word Presss
ยืนพื้นอยู่เป็นอันดับแรกกันเลยกับโปรแกรม ออกแบบเว็บ ที่เชื่อว่านี่คือโปรแกรมแรกๆ ของคนที่เคยผ่านการสร้างเว็บไซต์ด้วยตนเองย่อมต้องเคยทำมาก่อนกับโปรแกรม Word Presss ซึ่งด้วยความที่โปรแกรมตัวนี้มีคนใช้งานอยู่เกือบทั่วทุกมุมโลกใช้งานง่ายพร้อมกับมักจะมีนักพัฒนา Theme บวกปลั๊กอินคอยสร้างฟังก์ชั่นต่าง ๆ อยู่เสมอตลอดเวลาจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจหาก Word Presss จะกลายมาเป็นโปรแกรม ออกแบบเว็บ ที่ได้รับความนิยมมาอย่างช้านานแถมยังรองรับ SEO ด้วย

2. Wix
ลำดับถัดมากับโปรแกรม ออกแบบเว็บ ที่เหมาะสำหรับมือใหม่เป็นอย่างมากนั่นก็คือ Wix อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะวิธีใช้งานในการออกแบบก็มีเพียงการทำแบบ Drag and Drop หรือแค่การลาก ๆ วาง ๆ เพียงเท่านั้นและที่สำคัญยังมีเทมเพลทสวย ๆ ให้เลือกใช้เยอะมาก แต่มีข้อเสียนั่นก็คือไม่สามารถรองรับการทำ SEO แต่หากใครที่ไม่ได้เน้นก็สามารถใช้ได้แบบยาวๆ

3. Weebly
อีกหนึ่งโปรแกรมที่ค่อนข้างจะได้รับความนิยมพอสมควรในการ ออกแบบเว็บ ก็ต้องโปรแกรมนี้เลยกับ Weebly ที่ถือว่าอยู่มานมนานมาก ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ชอบใช้งานโปรแกรม Weebly มักจะมีความเน้นไปเรื่องเป็นเว็บขายของออนไลน์ ทำธุรกิจ แน่นอนว่าสามารถรองรับการทำ SEO และยังเป็นแบบ Responsive รองรับในทุก ๆ การแสดงผลหน้าจอได้เป็นอย่างดีอีกด้วยนะ

4. Squarespace
มาถึงลำดับสุดท้ายกับโปรแกรม ออกแบบเว็บ ที่มีชื่อว่า Squarespace โดยได้รับการขนานนามมาตลอดว่าสามารถใช้เล่นได้ง่ายกว่า Word Presss เป็นอย่างมากอีกทั้งยังมีเทมเพลตที่ดูสวยงามเรียบหรูเหมาะอย่างยิ่งกับเว็บไซต์ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับดีไซเนอร์, ช่างภาพ หรือศิลปินที่ต้องการเอาไว้โชว์ Portfolio เจ๋ง ๆ ใครที่กำลังมาทางสายนี้อยู่ต้องลองใช้โปรแกรมออกแบบนี้กันดูเลย

และนี่ก็คือ 4 อันดับโปรแกรม ออกแบบเว็บ ที่เราหยิบมานำเสนอกันในวันนี้ ใครบอกว่าการออกแบบเว็บไซต์เป็นเรื่องที่ยาก หากคุณได้รู้จักและลองใช้โปรแกรมเหล่านี้บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรที่ยากเกินมือเราและความสามารถเราอย่างแน่นอน

Long tail keyword คืออะไร ทำไมสำคัญต่อกลยุทธ์ SEO

Long tail keyword คืออะไร ทำไมสำคัญต่อกลยุทธ์ SEO

เรื่องสำคัญของคนทำเว็บอีกข้อคือการออกแบบเว็บให้ Search Engine เข้าใจง่ายที่สุดและมีโอกาสขึ้นไปอันดับต้นๆของผลการค้นหา ปัจจุบันการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่มีคนสนใจกันมาก เพื่อช่วยให้เห็นเว็บไซต์ง่ายขึ้น มีโอกาสที่จะเสนอขายสินค้าและบริการได้ก่อนคู่แข่งรายอื่น คีย์เวิร์ดเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการทำ SEO โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Long Tail Keywords ที่เจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น เรามาทำความรู้จักคีย์เวิร์ดนี้กัน

Long Tail Keywords คืออะไร

ความหมายของ Long Tail Keywords คือคีย์เวิร์ดที่เป็นกลุ่มคำที่มีความหมายเฉพาะเจาะจง เพื่อให้ความหมายแคบลง ง่ายต่อการค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ตรงจุดและรวดเร็วขึ้น โดยปกติคีย์เวิร์ดที่นำมาใช้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ Short, Medium และ Long ดังนี้

  1. Short-Tail keywords เป็นคีย์เวิร์ดที่นิยมใช้กันบ่อย เช่น รองเท้า กระเป๋า หน้ากากอนามัย เนื่องจากมีความครอบคลุมมาก ผลการค้นหาใน Google จะเข้าถึงเว็บไซต์จำนวนมาก
  2. Medium-Tail keywords คือคีย์เวิร์ดที่นำคำสั้นแบบ Short-Tail keywords จำนวน 2-3 คำขึ้นไป มาต่อกันเพื่อให้ความหมายที่มีความเจาะจงมากขึ้น สามารถเข้าถึงเว็บไซต์จำนวนปานกลางแต่ตอบโจทย์ความต้องการค้นหาได้ดีขึ้น
  3. Long-Tail keywords เป็นคีย์เวิร์ดประเภทที่มีความเจาะจงมากที่สุด ประกอบไปด้วยคำหลายคำ จะมีปริมาณการค้นหาน้อยกว่าสองประเภทข้างต้น

เปรียบเทียบผลการค้นหาเมื่อใช้คีย์เวิร์ดแต่ละประเภท ในกรณีที่ใช้คีย์เวิร์ดคำเดียวจะมีความหมายกว้าง ๆ ครอบคลุมมากเกินไป เช่น “รองเท้า” ถ้าใช้คีย์เวิร์ดที่เป็นกลุ่มคำจะเจาะจงมากขึ้น เช่น “รองเท้าผ้าใบ” ยิ่งเพิ่มจำนวนคำทำให้คีย์เวิร์ดเป็นกลุ่มคำที่มีความยาวขึ้น เช่น “รองเท้าผ้าใบ ราคาถูก” หรือ “รองเท้าผ้าใบ ผู้หญิง กรุงเทพฯ ราคาถูก” ช่วยตีกรอบให้แคบลง แม้ว่าผลการค้นหาจะลดน้อยลง แต่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ต้องการมากขึ้น

ข้อดีของการใช้ Long Tail Keywords

คีย์เวิร์ดคำเดียวค้นหาสิ่งที่ต้องการแบบกว้าง ๆ จะแสดงผลการค้นหามากมาย เมื่อต้องไล่ดูไปทีละเว็บไซต์ทำให้เสียเวลามาก การทำ SEO ให้ติดหน้าแรกก็ยากมากขึ้นด้วย ส่วนคีย์เวิร์ดหลายคำเจาะเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยตรง ส่งผลให้เจอบทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องได้ง่าย ค้นพบสินค้าที่ต้องการง่ายขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลดีต่อการทำตลาดด้วย

ธุรกิจน้อยใหญ่เริ่มสร้างเว็บไซต์ของตัวเองเพื่อเปิดช่องทางขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาค้นหาสิ่งที่ต้องการทางออนไลน์มากขึ้น แต่เพราะการแข่งขันทางธุรกิจออนไลน์สูงมาก ต้องใช้คีย์เวิร์ดหลายคำมาเป็นตัวช่วยให้เว็บไซต์อยู่ในหน้าแรก ๆ ของการค้นหาผ่าน Google มือใหม่ที่เริ่มต้นทำ SEO ควรเลือกใช้คีย์เวิร์ดประเภท Long-Tail keywords เป็นอันดับแรก นำมาแทรกในบทความเพื่อให้การแสดงผลการค้นหามีความเฉพาะเจาะจงและตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด

สำหรับการค้นหา Long Tail Keywords ไม่ได้ยากอย่างที่คิด มีเครื่องมือเรียกว่า Google Keyword Planner จาก Google Ads ซึ่งใช้งานง่ายและใช้ได้ฟรี นับว่าเป็นประโยชน์มาก ช่วยให้มือใหม่เลือกคีย์เวิร์ดแบบเฉพาะเจาะจงได้ง่ายยิ่งขึ้น

ดีไซส์ Webiste ระดับมืออาชีพต้องคิดถึงอะไรบ้าง ?

ดีไซส์ Webiste ระดับมืออาชีพต้องคิดถึงอะไรบ้าง

การออกแบบเว็บไซต์ตามแนวทางที่ถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญต่อธุรกิจออนไลน์อย่างมาก เพราะส่งผลถึงยอดขายสินค้าและบริการ การสร้างตัวตนของแบรนด์สินค้าได้เร็ว และเป็นการเพิ่ม traffic ให้ผู้คนเข้ามาในเว็บไซต์มากขึ้นเรื่อย ๆ

เรามาดูกันว่าหลักการออกแบบเว็บไซต์ที่ดีต้องคิดถึงอะไรบ้าง

  1. การเลือกภาพหรือคลิปที่ดี

มีหลักการว่า รูปภาพและคลิปต่าง ๆ เป็นสิ่งดึงดูดสายตาที่ดี และช่วยทำให้เนื้อหาบทความต่าง ๆ บนเว็บไซต์เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น การออกแบบรูปภาพที่เหมาะกับแต่ละเว็บสามารถทำได้ทั้งด้วยการวางองค์ประกอบภาพที่ถ่ายจากกล้องในห้องสตูดิโอ การจ้างทำภาพกราฟิก การทำคลิปภาพเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เหมาะสมกับเนื้อหา การควบคุมสีสันและรายละเอียดในภาพหรือคลิปจึงต้องวางแผนอย่างมืออาชีพ หากเป็นเว็บเพื่อการค้าแบบ e-commerce ก็ต้องเป็นรูปภาพสินค้าที่ชัดเจนเห็นรายละเอียดของสินค้าเพียงพอให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

  1. เลือกฟอนต์ที่สื่อสารแบรนด์

ฟอนต์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษสามารถบอกถึงลักษณะของสินค้าหรือแบรนด์ได้ เช่น หากใช้ฟอนต์แบบตัวอักษรไทยโบราณก็อาจหมายถึงเสื้อผ้าของไทยที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยหรือแนวย้อนยุค หากเป็นลายเส้นน่ารัก ๆ อ่านง่าย ๆ ก็สื่อสารถึงความเป็นกันเองระหว่างแบรนด์และลูกค้า ในปัจจุบันมีนักออกแบบฟอนต์ตัวอักษรมากมายที่สามารถทำงานตามโจทย์ได้ แต่หากต้องการประหยัดก็สามารถลองใช้บริการโหลดฟอนต์ฟรีจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ จะทำให้เว็บไซต์ดูสวยงามและมีความน่าสนใจมากกว่าการใช้ฟอนต์แบบธรรมดาทั่วไป

  1. การใช้ไอคอนในปุ่มคลิกต่าง ๆ

ในปัจจุบัน ช่องทางลัดเป็นเรื่องจำเป็นต่อการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์ เช่น การสอบถามด่วน การอีเมลไปถึงบริษัท การทำปุ่มแชร์ไปยังไลน์หรือเฟซบุ๊ก ฯลฯ ลองดูไกด์ไลน์จากเว็บ ผลบอล888 เป็นไกด์ไลน์ได้เหมือนกัน การใช้ไอคอนที่เหมาะสมจะช่วยให้เว็บไซต์ดูทันสมัย ทั้งยังตอบโจทย์การใช้งานที่เข้าใจง่าย การออกแบบไอคอนเองจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจ หรือจะหาจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่นิยมคือ flaticon ก็เป็นตัวช่วยที่ดีเช่นกัน

  1. ออกแบบโลโก้และแบนเนอร์ให้โดดเด่น

Logo และ Banner เป็นเหมือนภาพลักษณ์หรือหน้าบ้านของเว็บไซต์ ฉะนั้นต้องเลือกทีมผู้ออกแบบแบนเนอร์ที่เป็นมืออาชีพเท่านั้น เพื่อให้ Logo และ Banner ดูสะดุดตาและทำให้ลูกค้าอยากคลิกเข้ามาดูสินค้าและบริการมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หากนึกถึงแบรนด์กระเป๋า เสื้อผ้ากีฬา รถยนต์ นาฬิกาชั้นนำ ฯลฯ เราจะนึกถึงอะไรบ้าง เชื่อว่า นอกจากเรื่องคุณภาพของสินค้าและการบริการต่าง ๆ แล้ว รูปภาพ Logo และ Banner ประจำเว็บไซต์นั้น ๆ เป็นสิ่งแรกที่ผู้คนนึกถึง

การออกแบบเว็บนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับมือใหม่ที่จะทำเว็บไซต์เพื่อค้าขายออนไลน์ แต่ก็ไม่ยากเกินไปหากเรียนรู้ทฤษฎีแล้วนำไปปรับใช้อย่างต่อเนื่อง แต่ในกรณีที่มีเวลาน้อย เราแนะนำให้จ้างทีมงานจากบริษัทมืออาชีพที่มีความชำนาญ เพื่อลดระยะเวลาในการทำเว็บไซต์ ทำให้เกิดการพัฒนาของธุรกิจออนไลน์ของคุณได้อย่างรวดเร็ว

หน้าเว็บเพจสำหรับ ในการสร้างเว็บไซต์ให้ธุรกิจ

หน้าเว็บเพจสำหรับ ในการสร้างเว็บไซต์ให้ธุรกิจ

การออกแบบเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นองค์กร บริษัทหรือธุรกิจ แน่นอนจะต้องเริ่มต้นข้อมูลหน้าแรกที่บ่งบอกถึงเว็บไซต์ว่าสามารถเสนอข้อมูลอะไรได้บ้าง โดยทั่วไปแล้วเมื่อเข้ามาหน้าแรกจะเจอสไลด์ การแนะนำเกี่ยวกับบริการ ภาพลักษณ์ขององค์กร รวมถึงข้อความ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มาจากการเพิ่มเข้าไปในฐานข้อมูลทั้งหมด

  • About us – ข้อมูลตรงนี้จะอยู่ด้านล่างของเว็บไซต์ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจหรือบริษัทของคุณ ประกอบด้วยภาพและข้อความที่ได้มาจากฐานข้อมูล
  • Our Services – การเปิดดูรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับการบริการต่าง ๆ ได้ด้วยการคลิกที่ภาพซึ่งคุณสามารถเพิ่มหรือลบแก้ไขงานบริการหรือเพิ่มข้อความ ที่เรียกว่า content เข้าไปได้ นอกจากนี้ยังมีบริการอื่น ๆ ด้านขวามือซึ่งเป็นทางลัดเพื่อคลิกได้ง่ายมากขึ้น
  • Portfolio – Portfolio หรือผลงานที่เป็นภาพต่าง ๆ ขององค์กร บริษัทหรือธุรกิจ สามารถคลิกได้ที่ภาพผลงาน และจะมีสไลด์ที่เป็นภาพแกลอรี่
  • ข่าวสาร – ข่าวสารเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการออกแบบเว็บไซต์ สามารถอ่านรายละเอียดหรือดูภาพข่าว เพียงคลิกที่ อ่านเพิ่มเติม… หรือ read more… นอกจากนี้ในส่วนข่าวสารจะมีทางลัดอยู่ฝั่งขวาซึ่งสามารถคลิกเพื่อดูข่าวล่าสุดได้
  • การติดต่อ – การติดต่อ ประกอบด้วย รายละเอียด เวลาทำการ อีเมล์ เว็บไซต์ LOCATION หรือที่อยู่ของบริษัท ภาพแผนที่ ฟอร์มสำหรับการติดต่อที่ใช้งานได้จริง ส่วนด้านล่างจะเป็น INFORMATION ต่าง ๆ ที่สามารถใส่ข้อความตามที่ต้องการได้หรือลิงก์ไปยัง Social Network นอกจากนี้ทางด้านขวามือยังสามารถเพิ่มลิงก์ได้ตามที่ต้องการอีกด้วย
  • หน้าประกาศรับสมัครงาน – การออกแบบเว็บไซต์หน้านี้ เป็นการระบุตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร เมื่อคลิกเข้าไปแล้วก็สามารถดูรายละเอียดว่ามีการรับตำแหน่งอะไร จำนวนกี่อัตราและมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง

การออกแบบเว็บไซต์ระบบหลังบ้านมีความสำคัญเช่นเดียวกันที่ไม่ควรมองข้าม เริ่มต้นด้วยการกรอก Username และ password แล้วคลิก Login โดยหน้าแรกที่เข้ามาระบบหลังบ้านจะเป็น Dashboard คือจะเห็นข้อมูลจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ซึ่งจะแยกเป็นรายเดือน ส่วนทางด้านซ้ายมือจะเป็น ADMIN หรือผู้ดูแลระบบ หมายความว่าเป็นการเพิ่มหรือแก้ไขระบบ ประกอบด้วยฟอร์มเพิ่มและลบแก้ไขข้อมูล Banner / Slide การแก้ไขในส่วนข่าวสาร การใส่ชื่อบริการ รายละเอียดภาพประกอบและผลงานด้วยการเพิ่มภาพที่เป็นภาพแกลอรี่และโฟลเดอร์ เพื่อให้เว็บไซต์ดูสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น หรือมีฟังก์ชั่น Textslide ด้วยการใส่ข้อความตามที่ต้องการได้

การประกาศรับสมัครงานด้วยการใช้ฟอร์มเพิ่มข้อมูลในส่วนชื่อตำแหน่ง จำนวนที่เปิดรับและคุณสมบัติต่าง ๆ การติดต่อที่สามารถทดสอบระบบหลังบ้านได้ด้วยการใส่อีเมล หัวข้อและใส่ข้อความ จากนั้นคลิกส่งแล้วรีเฟรช หากจะแก้ไขข้อมูลให้ใช้ฟอร์มแก้ไขข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ วันและเวลาที่เปิดทำการ อีเมล เว็บไซต์ ที่ตั้งและแผนที่ของบริษัท นอกจากนี้ ระบบหลังบ้าน About us สามารถเพิ่มข้อมูลหรือข้อความที่เกี่ยวข้องกับองค์กรหรือธุรกิจของคุณได้อีกด้วย

ข้อมูลเกี่ยวกับการออกแบบเว็บสำหรับธุรกิจที่คุณควรรู้ ทั้งระบบหน้าบ้านและหลังบ้านเป็นสิ่งที่ต้องออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพตามที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น ดังนั้น ควรใส่ใจในแต่ละส่วนประกอบของเว็บไซต์เพื่อให้องค์กร บริษัทหรือธุรกิจดำเนินต่อไป หรือสามารถทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างก้าวหน้ามากขึ้น

ให้เว็บไซต์ ช่วยให้การทำธุรกิจออนไลน์ง่ายขึ้น

ให้เว็บไซต์ ช่วยให้การทำธุรกิจออนไลน์ง่ายขึ้น

การออกแบบเว็บไซต์เพื่อให้ขายดีนั้น ไม่ควรมีเมนูที่มากเกินไป อาจจะมีประมาณ 5 เมนู เช่น หน้าหลัก บริการ ราคา แหล่งความรู้ การติดต่อ เป็นต้น เนื่องจากปัจจุบันผู้คนที่เข้าเว็บไซต์ไม่ชอบดูอะไรมากมายและยังช่วยทำให้ลูกค้าไม่เกิดความสับสน ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีวิธีการออกแบบเว็บเพื่อทำให้การทำธุรกิจออนไลน์ง่ายขึ้น มาให้ลองปรับใช้

อย่างแรก การเขียนข้อความบนเว็บไซต์ควรเน้นให้กระชับ ได้ใจความหรือเขียนให้น้อยลงโดยเฉพาะเมื่อได้มีการอ่านข้อมูลในมือถือก็จะทำให้เว็บไซต์เด่นชัดมากขึ้น ง่ายต่อการที่จะกดเลือกลิงก์ ในทางตรงข้ามหากเขียนข้อมูลมากเกินไป อาจจะทำให้ดูแล้วไม่รู้สึกอยากอ่านได้ นอกจากนี้การออกแบบเว็บไซต์ให้นึกถึง SEO เพราะเป็นการปรับแต่งให้เว็บติดอันดับโดยธรรมชาติ รวมถึงให้มีวิดีโอและใช้ภาพช่วยในการอธิบายรายละเอียดที่ต้องการนำเสนอลูกค้า เนื่องจากในยุคนี้ใคร ๆ ก็กดดูวิดีโอก่อนเนื่องจากขี้เกียจอ่านข้อความ

ด้านการออกแบบเว็บที่มีปุ่มช่องทางการติดต่อในการทำธุรกิจออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ลูกค้ากรอกฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ จะได้ติดต่อกลับและส่งข้อมูลที่ลูกค้าต้องการได้และเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้ามากขึ้นมากกว่าการติดต่อทางอีเมล์ คือ การวางปุ่มไลน์บนหน้าเว็บไซต์ที่เป็นช่องทางการติดต่อเพราะทำให้ลูกค้าใช้มือถือคลิกแอดไลน์ได้เลย หรือถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ก็จะเป็นคิวอาร์โค้ด เมื่อใส่ช่องทางการติดต่อต่าง ๆ บนเว็บไซต์แล้วก็สามารถเป็นตัวชี้วัดได้ว่ามีคนเข้ามากรอกฟอร์มกี่คน

Tracking Code ทุกหน้า เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้ใช้

การวางตัวชี้วัดไว้ทุกหน้าของเว็บไซต์เป็นหนทางประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์และยิ่งถ้าลดจำนวนหน้าของเว็บไซต์ลงให้เหลือประมาณ 10 หน้า ก็จะช่วยการบริหารแต่ละหน้าได้ง่ายมากขึ้น เพราะสามารถวางโค้ดหลายอย่างที่ต้องการได้โดยใช้เวลาไม่มากนัก เช่น

  • Google Analytics เป็นเครื่องมือกูเกิ้ลที่ใช้ได้ฟรี คล้าย ๆ กับตัววัด traffic ที่เข้ามาในเว็บไซต์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการชี้วัดว่าเป็นเพศอะไร ช่วงอายุเท่าไหร่ เข้ามาเวลาไหนมากกว่ากัน และเข้ามาจากแหล่งไหน
  • Remarketing Code ,Pixel ติดไว้ในแต่ละหน้าซึ่งแยกจากกันได้ง่าย เพราะมีเพียงไม่กี่หน้าทำให้สามารถส่งโฆษณากลับไปหาลูกค้าได้ตรงตามที่ต้องการมากขึ้น
  • Conversion เบื้องต้น ในการทำโฆษณาด้วยการวัดผลลัพธ์จากหน้า Facebook, Youtube และ Google
  • Tag Manager เป็นการวางโค้ดเพียงครั้งเดียวแบบไม่ต้องวางซ้ำบนเว็บไซต์

เมื่อมีการออกแบบเว็บที่ทำให้การทำธุรกิจออนไลน์ง่ายขึ้น คนส่วนใหญ่ก็จะได้รับรู้ถึงโฆษณาสินค้าและบริการธุรกิจของคุณในหน้าหลักและหน้าต่าง ๆ ส่งผลให้ลูกค้าบางส่วนสนใจและมีการติดต่อด้วยการกรอกข้อมูล จากนั้นก็อาจนำไปสู่การซื้อด้วยการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต และอาจยังทำให้ลูกค้าบอกต่อได้ ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้าจริง ลูกค้าแฟนเพจต่าง ๆ ที่กดไลค์ ดังนั้น แนวความคิดในการออกแบบเว็บจึงมีความสำคัญ รวมถึงการวัดผลสถิติผู้เข้าชมและการทำโฆษณาเพื่อนำไปปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

เทคนิคออกแบบเว็บให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย

การขายสินค้าบนโลกออนไลน์จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบเว็บไซต์ที่สื่อสารได้ดี ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่เพียงความสวยงามเท่านั้น ซึ่งควรทำอย่างมืออาชีพ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการคลิกเข้าไปชมข้อมูลต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ให้มากที่สุด นำมาซึ่งความเชื่อมั่นในแบรนด์ ทำให้มีการสั่งซื้อสินค้าและอาจทำให้ได้ลูกค้าประจำมากขึ้นด้วย

หลักการออกแบบเว็บไซต์ที่ดี ดังนี้

1. รู้แนวทางประเภทธุรกิจ

ธุรกิจแต่ละชนิดมีกลุ่มเป้าหมายต่างกัน การทำเว็บไซต์จึงไม่เหมือนกัน เช่น ด้านการโรงแรม จะเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ข่าวสาร อัปเดตโปรโมชั่น แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในละแวกใกล้ที่พัก การทำเว็บไซต์ต้องมีความเป็นทางการน่าเชื่อถือและใช้ภาษาที่เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ส่วนธุรกิจจำหน่ายสินค้าแฟชั่นหรือกีฬา การให้ข้อมูลต่าง ๆ ควรเน้นความเป็นกันเอง มีสีสันที่สดใส ทำให้เร้าใจผู้อ่าน เป็นต้น

2. การเลือกฟอนต์และธีมเว็บไซต์

นอกจากการมีข้อมูลที่อัปเดตสดใหม่แล้ว ยังต้องเลือกใช้ฟอนต์ตัวอักษรที่เข้ากับธีมของเว็บไซต์ด้วย หากเป็นเว็บไซต์ขายเครื่องสำอางนำเข้าจากประเทศเกาหลี ก็ควรใช้ฟอนต์ไทยที่คล้ายตัวอักษรเขียนแบบเกาหลี จะทำให้กลุ่มลูกค้าจดจำและชื่นชอบเว็บไซต์มากขึ้น ส่วนธีมสีและการวางโครงสร้างเว็บไซต์ หากเป็นสินค้าแนวแฟชั่นเสื้อผ้า รองเท้า ก็ต้องเน้นเปลี่ยนธีมสีที่ตรงกับเทรนด์แฟชั่นแต่ละปี จะใช้สีเดียวไปตลอดไม่ได้ เพราะลูกค้าจะเบื่อและไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง ทำให้ไม่มั่นใจว่ามีการอัปเดตข้อมูลใหม่จริง

3. การผลิตสื่อมัลติมีเดีย

การส่งเสริมการขายด้วยการทำสื่อมัลติมีเดียที่สอดคล้องกับบทความ เป็นเทคนิคที่กูรูการตลาดแนะนำ เพราะจะเพิ่มระยะเวลาในการอยู่ในหน้าจอเว็บไซต์นานขึ้น ช่วยเพิ่มอันดับความน่าสนใจหรือเพิ่มค่า SEO ในการสืบค้นทาง Google ให้เว็บไซต์ได้ ภาพเคลื่อนไหวแนวกราฟฟิก 3 มิติ หรือการถ่ายทำสาธิตการใช้สินค้าด้วยมุมกล้องแบบต่าง ๆ จะทำให้ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของแบรนด์ เสริมความเข้าใจในตัวสินค้าบริการ และเพิ่มอำนาจการแข่งขันทางธุรกิจได้มากขึ้น

4. การทำแอปพลิเคชันหรือการใช้ AI ช่วย

การออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้งานได้ง่าย ทั้งในมือถือและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ทำให้เพิ่มอันดับ SEO ได้ ซึ่งหลายเว็บไซต์มีการต่อยอด โดยทำแอปพลิเคชันให้ดาวน์โหลดใช้บริการได้สะดวกขึ้นในโทรศัพท์มือถือ จึงขยายฐานลูกค้าได้รวดเร็ว ส่วนการใช้ระบบ AI ทำ chatbot เพื่อตอบคำถามหรือสืบค้นข้อมูลให้ลูกค้า ก็เป็นช่องทางที่ดีและช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ทันสมัย และลดภาระงานของผู้จัดการเว็บไซต์ได้ด้วย

การออกแบบเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ สำคัญต่อการเติบโตของแบรนด์และเพิ่มอำนาจในการแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างมาก หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกท่านที่ทำเว็บไซต์ออนไลน์ จะได้นำไปปรับปรุงพัฒนาเว็บไซต์ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

เทคนิคออกแบบเว็บให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย

จะออกแบบเว็บไซต์อย่างไรให้สวยโดนใจลูกค้า

จะออกแบบเว็บไซต์อย่างไรให้สวยโดนใจลูกค้า

การทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ในยุคปัจจุบัน จำเป็นต้องใส่ใจในการทำเว็บไซต์ให้สวยดึงดูดใจลูกค้า ซึ่งจะต้องมีการใช้เทคนิคที่หลากหลาย เราจะมาดูกันว่า ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญการทำเว็บไซต์มีเทคนิคใดที่น่าสนใจ เพื่อให้ทุกท่านนำไปปรับใช้อย่างได้ผล

ออกแบบเว็บให้ดูเรียบง่ายสบายตา

เป็นการใช้สไตล์มินิมอล มีการจัดวางโครงสร้างที่เป็นระเบียบ ทั้งในส่วนของประวัติบริษัท ข้อมูลของผลิตภัณฑ์ การบริการหลังการขาย การติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ฯลฯ จะต้องแยกจากกันให้ชัดเจน โดยใช้สีสันและตัวอักษรที่อ่านง่ายสบายตา จึงจะทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมีความประทับใจและกลับมาใช้บริการเว็บไซต์ซ้ำอีก

ไม่เน้นการขายจนมากเกินไป

ถ้ามีการทำ Banner โฆษณากระจายอยู่ทั่วเว็บไซต์ จะสร้างความรำคาญและความไม่ประทับใจแก่ลูกค้าได้ และทำให้ความเชื่อมั่นในตัวสินค้าน้อยลงไปด้วย เพราะลูกค้าอาจจะรู้สึกกลัวว่าสินค้าอาจจะไม่มีคุณภาพดังที่ได้ประชาสัมพันธ์ไว้ก็เป็นได้

สื่อมัลติมีเดียประกอบบทความ

เป็นสิ่งที่ควรมีการออกแบบเว็บไซต์ ปี 2019 เนื่องจากทำให้สร้างความเข้าใจในเนื้อหาต่าง ๆ ดีขึ้น และดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะถ้าเป็นภาพเคลื่อนไหวยิ่งจะทำให้ลูกค้านิยมเข้ามาชมมากกว่าการเป็นภาพประกอบแบบดั้งเดิม

สัมพันธ์กับการอุปกรณ์ใช้งาน

เว็บไซต์ควรต้องมีความสวยงาม ใช้ได้ทั้งบนหน้าจอ Desktop คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและ หน้าจอมือถือ ไม่เกิดความผิดพลาด (Error) เวลาใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ เพราะมากกว่า 70% ของผู้ใช้จะใช้ผ่านสมาร์ทโฟน หากตัวหนังสืออ่านไม่ได้ ภาพไม่สวยงามเหมือนใช้บนหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ก็จะทำให้คุณอาจจะพลาดโอกาสในการขายไปได้

ดาวน์โหลดข้อมูลเร็ว

เว็บไซต์ใดที่ใช้บริการ hosting หรือ Server ที่มีปัญหาในการส่งผ่านข้อมูล ทั้งการอัพโหลดและดาวน์โหลด จะทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจที่จะมาใช้บริการซ้ำอีก (เพราะรู้สึกว่าเสียเวลา) ทำให้อาจเสียลูกค้าไปให้บริษัทเจ้าอื่นได้

การตกแต่งเว็บไซต์ต้องมีช่องว่าง

ในหน้าเว็บไซต์ ควรจะมีพื้นที่ว่างบ้าง เพื่อให้ลูกค้าพักสายตาได้ และไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียดด้วยข้อมูลที่แน่นมากเกินไป ทั้งนี้ควรใช้โทนสีที่สบายตา เช่น สีน้ำตาลอ่อน สีฟ้าอ่อน ฯลฯ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายด้วย การมีช่องว่างที่เหมาะสมจึงทำให้เว็บไซต์ดูทันสมัยและเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น

จะเห็นได้ว่าการออกแบบเว็บไซต์ให้โดนใจลูกค้าไม่ใช่เรื่องยากเกินไป เป็นสิ่งที่เรียนรู้ได้ ด้วยการข้อมูลเพิ่มเติมจากหนังสือหรือปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาเว็บไซต์ ซึ่งมีบริษัทเอกชนพร้อมดูแลให้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การออกแบบเว็บไซต์ขายสินค้าของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุดทั้งด้านยอดผู้ติดตามและทำให้เกิดยอดการขายสินค้าที่บรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

จะออกแบบเว็บไซต์ให้สวยโดนใจลูกค้า

หน้าตาเว็บบริษัท เว็บร้านค้า มีผลต่อยอดขายอย่างไร ?

ออกแบบดี ส่งผลตรงกับยอดขาย

ปัจจุบันผู้บริโภคจำนวนมากค้นหาข้อมูลสินค้า บริการ และความต้องการอื่นๆ ทางอินเทอร์เน็ต หน้าเว็บไซต์จึงเปรียบเหมือนหน้าร้าน บรรดาธุรกิจร้านค้าจึงต้องออกแบบเว็บให้สวยงาม ใช้งานง่าย และเหมาะสมกับธุรกิจเพื่อให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ เป็นการใช้เทคนิคเข้าถึงลูกค้าอย่างเป็นธรรมชาติ นำเสนอจุดเด่นและข้อดีของสินค้าที่ทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจ พึงพอใจ และต้องการซื้อสินค้า เป็นการตลาดแบบดึงดูดช่วยสร้างโอกาสในการขายสินค้าและบริการดีกว่าการโหมโฆษณาบนหน้าเว็บนั้น

เว็บฟรี โฮสฟรี มักมีลิมิต

สำหรับนักธุรกิจมือใหม่สนใจอยากใช้บริการสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรีเพื่อทดลองใช้ระบบก่อน ตัดสินใจซื้อแพ็กเกจ ถามว่าจะใช้โฮสติ้งฟรีไปเรื่อยๆ ได้หรือไม่ ตอบว่าทำได้แต่จะดูไม่น่าเชื่อถือ แน่นนอนว่ารูปแบบเว็บที่ได้ไม่ค่อยมีคุณภาพ ดีไซน์ไม่ตรงกับความต้องการ และอาจพบข้อจำกัดหลายอย่าง การลงทุนจ้างทีมนักออกแบบมืออาชีพแบบจ่ายรายปีนั้นมีเรตราคาให้เลือกหลายระดับตั้งแต่เว็บแบบพื้นฐานราคาประหยัดไปจนถึงระดับพรีเมียม จะได้ผลงานที่มีประสิทธิภาพตามราคาแพ็คเกจที่เลือก ทีมงานมืออาชีพจะเข้ามาดูแลเว็บให้มีรูปแบบสวยทันสมัย ฟังก์ชั่นครบถ้วนดูน่าเชื่อถือ ทำงานได้ง่าย โหลดรวดเร็ว รองรับการแสดงผลบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตอย่างสะดวกมากขึ้น สามารถอัพเดทสินค้าใหม่ให้ลูกค้าเห็นสินค้าอย่างสม่ำเสมอและแสดงผลปรากฏบนอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ทีมงานคุยง่าย บริการรวดเร็ว ให้คำแนะนำทุกอย่างเพื่อช่วยออกแบบหน้าเว็บให้ลงตัวกับธุรกิจร้านค้ามากที่สุด

โดยปกติบริการออกแบบเว็บสำเร็จรูปเปิดโอกาสให้ธุรกิจร้านค้าจัดแต่งหน้าเว็บหลากหลายแบบได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีทักษะมากนักก็ใช้งานได้ ธุรกิจร้านค้าสามารถสร้างเนื้อหาและเผยแพร่รีวิวสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียได้ง่ายโดยไม่ต้องจ้างโปรแกรมเมอร์อีก สำหรับการโปรโมทสินค้าในรูปแบบรีวิวสินค้าจากประสบการณ์จริงของลูกค้าที่ซื้อจริงใช้จริงมาก่อนช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคที่ค้นหาสินค้าบนกูเกิลเกิดความไว้วางใจธุรกิจของคุณมากขึ้น มั่นใจว่าได้ควักกระเป๋าเลือกซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณภาพ

เว็บไซต์ในสายตาลูกค้า

อย่าไปเสียดายกับค่าออกแบบ

เพราะการโฆษณาผ่านสื่อกระแสหลัก เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โทรทัศน์ และช่องทางอื่นๆ มีราคาแพงกว่ามาก การจ้างทีมบริษัทพัฒนา ออกแบบเว็บขั้นสูง จึงประหยัดกว่า เริ่มต้นด้วยแพ็คเกจจ่ายรายปีราคาเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น ลองนึกถึงหน้าเว็บที่สวยงาม ใช้ง่ายไม่ซับซ้อน เนื้อหาไม่แน่นมากเน้นโชว์รูปภาพโดดเด่นและคลิปวิดีโอสั้นๆ ที่สื่อสารได้ครบถ้วน ทั้งโปรโมทสินค้าบ้าง รีวิวสินค้าด้วย ย่อมมีพลังดึงดูดและกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ทันที

อย่าปล่อยให้โอกาสการทองหลุดมือไป เพียงเปิดให้ใช้ทีมบริการดูแลการตลาดออนไลน์เข้ามาช่วยออกแบบระบบให้วันนี้ คุณจะได้เว็บไซต์ที่มีคุณภาพซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการตลาดออนไลน์ ไม่เพียงขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มทักษะการเป็นนักขายมืออาชีพรองรับการขยายกิจการต่อไปในอนาคต ไม่ต้องอธิบายมากก็รู้ว่าคุ้มค่าขนาดไหน